กุหลาบหิน เป็นไม้ในสกุลที่ส่วนใหญ่เป็นไม้พุ่ม อวบน้ำและมีอายุอยู่ได้นานหลายปี มีถิ่นกำเนิดในมาดากัสกาแอฟริกาและเอเชีย เหมาะที่จะปลูกเป็นไม้กระถาง ต้นดั้งเดิมส่วนมากจะมีลักษณะต้นสูงเก้งก้าง ต่อมาได้มีการคัดเลือกพันธุ์ อันเนื่องมาจากการกระจายพันธุ์และการผสมพันธุ์ ทำให้ได้พันธุ์ใหม่ที่มีพุ่มต้นเตี้ยกะทัดรัด
ลักษณะทั่วไป
กุหลาบหินหรือกาลังโชเป็นไม้ประดับกระถาง
เป็นพืชที่ปลูกง่าย ปลูกทั้งในและนอกอาคาร แต่ปลูกได้ดีเมือ่อยู่ ในกลางแจ้ง
เพราะเป็นพืชชอบแดด กุหลาบหินเมีใบค่อนข้างกลมเป็นหยักมนซ้อนๆกันคลายดอกกุหลาบแต่
ไม่อ่อนช้อยจึงได้ชื่อว่ากุหลาบหิน
กุหลาบหินเป็นไม้อวบน้ำอายุหลายปีมีพุ่มเตี้ยสูง 30 - 40 เซนติเมตร ใบเดี่ยว
สีเขียวกลม ปลายมนขอบใบหยักเป็นมน ออกเวียนสลับซ้อนๆ กัน ออกดอกเป็นช่อ
ช่อดอกชูสูงเหนือพุ่มใบ เป็น ดอกย่อยขนาดเล็กๆจำนวนมาก สีแดงอมส้มสด
ปัจุปันมีพันธุ์ที่เป็นพุ่มเตี้ยกะทัดรัด ใบขนาดเล็ก และมีดอกสี ต่างๆ เช่น ชมพู
ส้ม เหลือง ฯลฯ ออกดอกฤดูกาลเดียว คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม
เป็นพืชที่เลี้ยงง่าย แตกหน่อไว ถ้าขยันแยกหน่อ กุหลาบหินจะเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสัน
มีบางคนนิยมปลูกกุหลาบหินเป็นไม้มงคล เพื่อถือเคล็ด ว่าปลูกแล้ว จะรำรวยเป็นเศรษฐี
อย่าไรก็ตามกุหลาบหินเป็นไม้ประดับที่น่าสนใจที่รูปทรงดูสวยแปลกตาแตก
ต่างจากไม้ชนิดอื่น ถึงแม้มีความสามารถในการดูดสารพิษน้อย
กุหลาบหินเป็นพืชที่ปลูกที่ปลูกง่ายทนทาน
นิยมปลูกไว้กลางแจ้ง เพราะชอบแดดจัด แต่ถ้านำมาปลูกภายในอาคารก็สามารถปลูกได้
แต่ใบจะมีสีเขียวเข้มและ มักจะไม่ออกดอก
จึงควรตั้งไว้ในที่มีแสงอย่างเพียงพอหรือแสงแดดส่องถึง ให้น้ำสัปดาห์ 1-2 ครั้ง
ก้อเพียงพอ ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ละลายน้ำรดในช่วงที่กำลังออกดอก
การปลูก
ดินที่ใช้ปลูกต้องโปร่งระบายน้ำได้ดี
ทั้งนี้เพราะกุหลาบหินไม่ชอบดินแฉะกุหลาบหินไม่พิถีพิถันเรื่องดินปลูกมากนัก
โดยเฉพาะประเทศไทยอาจเป็นเพราะว่ากุหลาบหินมีช่วงการเจริญเติบโตจนดอกบานนานกว่าไม้ดอกชนิดอื่นๆ
กุหลาบหินปลูกได้ในดิน เกือบทุกชนิด แต่ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทรายส่วนผสมของดินใช้ดินร่วน
2 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน
ขยายพันธุ์โดยการปักชำยอดและปักชำใบ
การขยายพันธุ์
1.โดยการเพาะเมล็ด
ดังได้กล่าวมาแล้วว่าเมล็ดกุหลาบหินมีขนาดเล็กมากเล็กกว่าเมล็ดกล็อกซิเนียและอัฟริกันไวโอเล็ต
จนเกือบจะกล่าวได้ว่าเล็กที่สุดในบรรดาไม้ดอกทั้งหลาย เมล็ดหนัก 1 ออนซ์ มีถึง 1,000,000-2,500,000 เมล็ด (บีโกเนียมี
2,000,000
แล้วแต่พันธุ์)
ดังนั้นการเพาะจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งวัสดุที่ใช้จะต้องสะอาดและมีขนาดเล็ก (Fine) เก็บความชื้นได้พอเหมาะพอดีไม่แฉะเกินไป
เพราะถ้าแฉะเกินไปจะทำให้เมล็ดเน่าก่อนงอก ในต่างประเทศใช้พีทและเวอร์มิคูไลต์
เบอร์ 4 อัตราส่วน 1:1
การเพาะควรใช้วิธีหว่านลงบนวัสดุเพาะโดยไม่ต้องกลบ
เมล็ดจะสอดแทรกเข้าไปในช่องว่างของวัสดุที่ใช้เพาะเองได้
แต่เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายเลี้ยงง่าย จึงงอกได้เร็วและง่ายกว่าไม้ดอกอื่นๆ
ตามตำราบอกว่าเมล็ดจะงอกภายใน 10 วันและอุณหภูมิที่ใช้เพาะจะต้องสูงกว่า 70 F ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ในการเพาะเมล็ดไม้ดอกมาหลายสิบชนิด
ส่วนมากเมล็ดจะงอกได้เร็วกว่ากำหนดไว้ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะเรามีอุณหภูมิสูงกว่า 70 F อากาศร้อนกว่าจึงทำให้เมล็ดงอกเร็วกว่ากำหนดเสมอ
ดังนั้นคาดว่ากุหลาบหินจะงอกภายใน 5-7 วันเท่านั้น
2.การปักชำ
ทำได้ทั้งยอดและใบแต่ดังได้กล่าวมาแล้วว่าในต่างประเทศได้มีการคัดพันธุ์และผสมพันธุ์จนได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะดีเด่นมากมายพร้อมกับ
มีการจดทะเบียนสงวนลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อย
ตามกฎหมายแล้วสงวนลิขสิทธิ์ในการทำกิ่งปักชำจำหน่ายเฉพาะผู้ทีมีใบอนุญาตเท่านั้น
โดยผู้ปลูกจะต้องซื้อกิ่งปักชำจากผู้ผลิต แต่ถ้าต้องการจะทำกิ่งปักชำเอง
โดยซื้อต้นแม่พันธุ์มาทำสต็อค
จะต้องขออณุญาตอย่างเป็นทางการและขอค่าธรรมเนียมเป็นรายกิ่งให้กับผู้ทรงสิทธิ์นั้นด้วย
จะขยายพันธุ์เองโดยพลการย่อมไม่ได้ถือว่าผิดกฎหมายมีโทษอย่างแรง การปักชำยอดทำได้ง่ายและสะดวกมาก
เพียงแต่ตัดส่วนยอดให้มีความยาวประมาณ 1-3 นิ้ว ริดใบล่างออกบ้าง
นำไปปักชำในทรายผสมถ่านแกลบอัตราส่วน 1:1 จะออกจากรากภายใน 2 สัปดาห์และย้ายปลูกได้เลย
การปักชำใบทำได้ง่ายสะดวกมากแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะงอกเป็นต้นใหม่ คือ หลังจากปักชำแล้วจะออกรากที่โคนก้านใบภายใน
2 สัปดาห์แล้ะจะออกต้นใหม่ในเวลาประมาณ
2 เดือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น